เมื่อเร็วๆ นี้ การอภิปรายอย่างเข้มข้นเน้นไปที่อนาคตของอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะ Bitcoin ไปจนถึงเหรียญมีมที่ World Economic Forum ปี 2025 ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump กลับมาที่ห้องออฟฟิศ Oval อีกครั้ง
Bitcoin Reserve จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่?
ในการประชุม World Economic Forum ปี 2025 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีการพูดคุยกันอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับ Bitcoin, เหรียญมีม และอนาคตของอุตสาหกรรมคริปโตฯ โดยมีจุดเด่นคือการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ Donald Trump พร้อมกับการเปิดตัวโทเคน Official Trump (TRUMP) ที่สร้างความตื่นเต้นอย่างมากในวงการ
The World Economic Forum doesn't talk about Bitcoin – so I made sure that we did in 2025.
I took the chance to ask if the US will adopt a Bitcoin strategic reserve during the 'Crypto at a Crossroads' session inside this year's WEF conference.
Coinbase's Brian Armstrong remains… pic.twitter.com/KtxoZD20tg
— Gareth Jenkinson (@gazza_jenks) January 21, 2025
ในเซสชันเดียวที่พูดถึงคริปโตฯ ในปีนี้ บรรดาผู้นำอุตสาหกรรมแสดงมุมมองเชิงบวกต่ออนาคตของคริปโตฯ ในสหรัฐฯ แม้จะมีความคึกคักจากการเปิดตัวโทเคน TRUMP โดยเฉพาะ Brian Armstrong ซีอีโอของ Coinbase กล่าวถึงการที่ เหรียญมีม อย่าง TRUMP จะไม่เป็นอุปสรรคต่อแนวคิดการสร้าง Bitcoin Strategic Reserve ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Trump ตั้งแต่ปี 2024
Armstrong กล่าวในเวทีว่า
“ผมไม่คิดว่ามันจะบั่นทอนความพยายามในเรื่อง Bitcoin Reserve แต่อย่างใด ความพยายามนี้ยังคงอยู่และดำเนินไปอย่างมั่นคง โดย Cynthia Lummis ในวุฒิสภากำลังผลักดันเรื่องนี้อย่างหนัก”
แนวคิดการสร้าง Bitcoin Reserve ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญอย่าง Cynthia Lummis , Donald Trump และ Michael Saylor จาก MicroStrategy ในงาน Bitcoin 2024 Conference ที่เมืองแนชวิลล์ ซึ่งในเวที WEF ครั้งนี้ Armstrong ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าวแก่ผู้เข้าร่วมประชุม
“รัฐบาลหลายแห่งถือครองทองคำ แต่ผมคิดว่าพวกเขาควรถือครอง Bitcoin เพราะมันเปรียบเสมือนมาตรฐานทองคำยุคใหม่ หลักการสำคัญคือคุณควรถือครองสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้ในระยะยาว” Armstrong เน้นย้ำ
แอฟริกาใต้ไม่น่าจะเดินตามรอยสหรัฐฯ
ในทางกลับกัน Lesetja Kganyago ผู้ว่าการธนาคารกลางแอฟริกาใต้ ตั้งข้อสงสัยว่าแอฟริกาใต้จะเดินตามสหรัฐฯ ในการสะสม Bitcoin โดยเขาตั้งคำถามถึงคุณค่าของ Bitcoin ในฐานะทุนสำรอง และชี้ให้เห็นว่าแอฟริกาใต้ให้ความสำคัญกับ CBDCs และเทคโนโลยีบล็อกเชนมากกว่า
อย่างไรก็ตาม Armstrong ตอบโต้ด้วยการย้ำหลักการสำคัญที่ผู้สนับสนุน Bitcoin ได้เน้นย้ำตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเขาชี้ว่า Bitcoin มีความหายากที่พิสูจน์ได้เหมือนทองคำ แต่พกพาและแบ่งย่อยได้มากกว่า ทั้งยังมีประโยชน์ใช้สอยที่สูงกว่า และเป็นสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนดีที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
Scaramucci วิจารณ์เดโมแครตเรื่องจุดยืนต่อคริปโตฯ
Armstrong ยังชี้ให้เห็นถึงข้อได้เปรียบของ Bitcoin เมื่อเปรียบเทียบกับทุนสำรองแบบดั้งเดิม พร้อมทั้งเสนอว่าธนาคารกลางสามารถถือครอง BTC ได้มากกว่าทองคำในอนาคต นอกจากนี้ Anthony Scaramucci ได้ออกมาวิจารณ์พรรคเดโมแครตที่ไม่มีจุดยืนที่ชัดเจนต่อคริปโตฯ โดยเขาเสริมว่า Trump ไม่ได้กล่าวถึงคริปโตฯ ในพิธีเข้ารับตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม Armstrong สรุปว่า
“ผลกระทบจาก Trump เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ และการบริหารงานของเขาได้นำความหวังใหม่มาสู่อุตสาหกรรมคริปโตฯ พร้อมเปิดพื้นที่ให้เติบโตในสหรัฐฯ”
ที่มา: coinpediaimage/jpeg