เมื่อวานที่ผ่านมา (27 มกราคม) ราคาของ Bitcoin ได้ร่วงดิ่งลงอย่างรุนแรงสู่ราคา $97,777 หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯเกิดวิกฤตจากกระแสการเปิดตัวโมเดลเอไอ Deepseek ที่เปรียบเสมือนกับพายุลูกใหญ่ที่โหมกระหน่ำวงการเทคของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (28 มกราคม) ราคาของบิทคอยน์ได้ฟื้นตัวกลับขึ้นมายืนเหนือ $100,000 อีกครั้ง จากการที่นักลงทุนจำนวนมากได้เข้าซื้อ Bitcoin ขณะที่ราคาปรับฐานลดลงมา ทำให้เกิดความขัดแย้งกันภายในตลาดว่า ทิศทางของ Bitcoin จะเป็นอย่างไรต่อไป
ในขณะเดียวกันนักเทรดบางรายเชื่อว่า Bitcoin ได้มาสู่จุดสูงสุดแล้ว ขณะที่นักเทรดอีกฝ่ายกลับมองในแง่ดีและเชื่อว่า Bitcoin จะไปได้ต่อภายใต้การเข้ามาของรัฐบาลทรัมป์
Axel Adler Jr นักวิจัย Bitcoin ชี้ให้เห็นว่าเหล่านักเทรดระยะสั้นมีการเทขาย Bitcoin ออกมาเป็นจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น ถึงแม้ว่าเมื่อวานตลาดจะผันผวนหนัก และมีนักเทรดสาย long โดนล้างพอร์ตไปกว่า 68 ล้านดอลลาร์ก็ตาม
เขายังบอกอีกว่าความเสียหายของนักลงทุนยังต่ำกว่า 2,000 BTC ซึ่งถ้าเทียบกับ 7 ครั้งก่อนๆ ที่ Bitcoin ร่วงหนักกว่า 5% นักเทรดเคยขาดทุนกันเกิน 5,000 BTC เลยทำให้เห็นว่าเหตุการณ์ล่าสุด ไม่ได้เป็นจุดที่ทำให้นักเทรดเทขายกันด้วยความวิตกกังวล
Joao Wedson ผู้ก่อตั้ง Alphractal กล่าวเสริมด้วยว่าแรงซื้อ Bitcoin ได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ราคาร่วงลงต่ำกว่า $100,000
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้ Fed จะมีการประชุม FOMC ในวันที่ 28-29 มกราคม (ตามเวลาสหรัฐฯ) ซึ่งอาจส่งผลให้ราคา Bitcoin ผันผวนอีกครั้ง แต่ที่น่าสนใจคือในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ราคา Bitcoin มักจะมีความผันผวนสูงในวันจันทร์ ซึ่งมักจะเป็นจุดที่ราคาต่ำสุดหรือสูงสุดของสัปดาห์ ก่อนจะกลับตัวในทิศทางตรงกันข้าม สิ่งนี้มักเกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนไหวเร็วในช่วงที่สภาพคล่องต่ำ เช่น ตอนตลาดเอเชียหรือยุโรปเปิด ก่อนที่ราคาจะปรับตัวตามทิศทางที่ชัดเจนเมื่อตลาดสหรัฐฯ กลับมาเปิดทำการ
ที่มา : Cointelegraphimage/jpeg